ถ้าหากอยู่ติดถนน หรือ ใกล้ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้าง เป็นต้น อันเป็นสาเหตุให้เกิด มลภาวะฝุ่นละออง มากกว่าเกินปรกติ ก็จำเป็นจะต้องทำให้ท่าน ล้างแอร์ บ่อยครั้งขึ้นเกินกว่า เกณฑ์ปรกติ อันสาเหตุมากจาก ปริมาณฝุ่นละออง มีจำนวนมาก มีวิธีสังเกตง่าย ๆ ที่ด้านหลังของ คอยล์ร้อน ที่ตั้งบริเวณด้านนอก หากมีฝุ่นเกาะจับมาก แนะนำให้ทำการ ล้างแอร์ ทันที อีกวิธี การ ล้างแอร์ เบื่องต้นด้วยตนเอง ควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของแอร์ ด้วยน้ำเปล่าทุกๆอาทิตย์ เพื่อลดการอุดตันของแผ่นกรอง ซึ่งจะช่วยประหยัดไฟได้อีกนิด ข้อสังเกต : แอร์จะทำความเย็นได้ดีขึ้น 10-15 เปอร์เซนต์ และ ประหยัดไฟขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ หลังจาก ล้างแอร์ อีกทั้งยังช่วยลดสิ่งสกปรก เชื่อโรคที่สะสม อยู่ภายใน เครื่องปรับอากาศ ทำให้เป็นผลดีกับสุขภาพของท่านด้วย เติมน้ำยาแอร์บ้าน เมื่อไหร่ นานเท่าไหร่ ถึงจะเติมน้ำยาแอร์ เวลาจะล้างแอร์ว่า ต้องเติมน้ำยาประมาณเท่าไหร่ จะต้องเสียกี่บาท อีกหนึ่งคำถาม เมื่อมีการ ล้างแอร์ ซื่งตรงนี้มันระบุแน่ชัดไม่แน่ชัดหรอกครับว่าต้องเติมน้ำยาแอร์เท่าไหร่ เพราะแอร์แต่ละเครื่องมันจะมีอัตราการรั่วซึมของน้ำยาแอร์ไม่เท่ากัน ซื่งส่วนใหญ่แอร์ที่พึ่งติดตั้งไปไม่เกิน 1 ปี ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์(ถ้าเติมก็ไม่เกิน10ปอนด์/ต่อตารางนิ้ว)แต่ถ้า เช็คแล้วน้ำยาขาดไปค่อนข้างเยอะ แสดงว่ามีปัญหาจากการติดตั้งแล้วครับ ส่วนแอร์เก่าหลังจาก 1 ปีเป็นต้นไปนั้นจะเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหนก็ต้องดูว่ามีจุดรั่วซึมของน้ำยา มากแค่ไหน(ซื่งดูด้วยตาเปล่ายากมาก ถ้าไม่รั่วออกมามากจริงๆ) ซื่งบริเวณที่มักจะมีน้ำยารั่วซึมคือจุดเชื่อมต่อต่างๆ หรือท่อทองแดงอาจเสียดสีกันจนน้ำยาแอร์สามารถรั่วซึมออกมาก็เป็นได้ ซื่งถ้าแอร์ของท่านมีจุดรั่วมากก็ย่อมต้องเติมมากและต้องเติมบ่อยขึ้นครับ(อาการน้ำยาพร่องแต่ไม่ถึงกับรั่วนี่จะหาจุดที่รั่วซึมยากมากเลยครับ) โดยอัตราน้ำยาในระดับปกติของแอร์บ้านทั่วไป จะต้องอยู่ที่ 70-80 ปอนด์/ตารางนิ้ว หรือแล้วแต่ทางผู้ผลิตจะกำหนดมาในแต่ละรุ่นครับ เราควรล้างแอร์บ้านบ่อยครั้งแค่ไหน มีลูกค้าหลายท่านถามผมว่าควรล้างแอร์บ้านบ่อยครั้งแค่ไหน จึงขอเขียนตอบลงในบทความนี้เลยละกันนะครับ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีคนบอกว่าต้อง ล้างแอร์ ประมาณ 6 เดือน/ครั้ง ซื่งตรงนี้คือการประมาณเท่านั้นครับ การที่เราต้องล้างแอร์บ่อยครั้งแค่ไหนมันไม่ตายตัวหรอกครับมันแล้วแต่ปัจจัย หลายๆอย่างๆด้วย เช่น * บริเวณที่เราอาศัยอยู่นั้นอยู่บริเวณไหน ถ้าอยู่ติดถนนก็จำเป็นต้องล้างบ่อยขึ้นโดยสังเกตได้จากแผงคอยล์ร้อนว่าเริ่ม มีการอุดตันของสิ่งสกปรกรึยัง * และถ้าหากไม่อยู่ติดถนนแต่ใกล้เคียงกับบ้านเรามีการก่อสร้างก็จะทำให้มีสิ่งสกปรกอุดตันเร็วเช่นกัน * ภายในห้องมีการใช้แป้งเยอะหรือไม่ หรือที่นอนเป็นฝุ่นเยอะหรือไม่ ตรงนี้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ต้องล้างแอร์เร็วขึ้นนะครับ * อีกปัจจัยก็คือเราใช้แอร์ตัวนี้บ่อยครั้งแค่ไหน ถ้าเกิดเปิดใช้ทุกวันก็จะทำให้สิ่งสกปรกอุดตันได้เร็วขึ้น เพราะแอร์มีการดูดอากาศที่มีฝุ่นละอองเข้าไปในตัวแอร์อยู่ตลอดเวลา ซื่งจากสาเหตุข้างต้นแอร์บางเครื่องจึงควรล้างอย่างน้อย 3 เดือน/ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน ประหยัดไฟ และเพื่อสุขภาพของเราครับ และอีกวิธีนึงที่สามารถช่วยได้เยอะเลยก็คือหมั่นล้างทำความสะอาดแผ่นกรองทุก อาทิตย์ด้วยตนเอง ข้อแนะนำ การล้างแอร์ ทุกครั้ง ช่างแอร์ จะทำการวัด น้ำยาแอร์ ให้กับทางลูกค้าทราบ ว่า น้ำยาแอร์ ของท่าน เหลือมากน้อยเพียงใด
ล้างแอร์ ล้างแอร์บ้าน แบบติดผนัง ของ ช่างแอร์ จะดำเนินการ ทำการ ล้างแอร์ตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1 ช่างแอร์ จะทำการ เปิดหน้ากากแอร์ คอยล์เย็น ออกมาโดยใช้มือทั้งสองข้าง โดย ช่างแอร์ จะดึงหน้ากากแอร์ ที่อยู่ริมซ้ายและขวา ของตัวแอร์ หลังจากนั้น ช่างแอร์ จะดึงแผ่นกรองอากาศออกมา ก่อน
ขันสกรูที่ยึดตัวหน้าแอร์ไว้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีจุดยึดไม่เหมือนกัน แล้ว ช่างแอร์ จะค่อยๆดึงหน้ากากแอร์ ออกมา จากตัวแอร์ สำหรับแอร์บางยี่ห้อสามารถดึงโดยจับด้านบนหน้าได้เลย
2 ช่างแอร์ ทำการ ขันสกรูที่ล็อคถาดน้ำทิ้งออก แล้วค่อยขยับปล็ดล็อคถาดน้ำทิ้ง จากนั้น ช่างแอร์ ก็จะดึงท่อทิ้งที่อยู่กับถาดน้ำทิ้งออก โดย จะทำอย่างระมัดระวัง โดย ใช้ผ้าใบพลาสติกคลุมแอร์ไว้ เพื่อจะให้น้ำจาก การล้างแอร์ ไม่หยดลงพื้น แล้ว ช่างแอร์ จะทำการฉีด ล้างแอร์ ด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง ซึ่งตอนนี้ ช่างแอร์ จะทำการ สับเบรกเกอร์ หรือ ยกตัวตัดไฟลง เพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้า ใน ขณะทำการ ล้างแอร์ พร้อมใช้ผ้าคลุมแผงควบคุมของแอร์ด้านขวามือไว้
3 ช่างแอร์ จะใช้ โบวเวอร์ เป่าแผงคอยล์ และ แผงไฟ ให้แห้ง แล้วใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด พร้อประกอบชี้นส่วนต่าง ๆ ของ แอร์ ให้กลับเข้าที่ให้เรียบร้อยตามลำดับ โดยเริ่มจากการใส่ถาดน้ำทิ้ง และ ทำการฉีดล้างคอยล์ร้อน หรือ คอนเดนซิ่งยูนิต ให้สะอาดด้วย ปั๊มน้ำแรงดันสูง โดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนใด ๆ ออก จนสะอาดเต็มที่แล้ว ช่างแอร์ จะดำเนินการสับเบรกเกอร์ ขึ้น แล้วทำการ เปิดแอร์ เพื่อเป็นการทดสอบการทำงาน ของ แอร์ เครื่องปรับอากาศ ของท่าน นั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด หลังจากทำการ ล้างแอร์ โดย ช่างแอร์ ของเรา การตรวจเช็คน้ำยาแอร์ หมดหรือไม่ นั้น ช่างแอร์ จะมีเครื่องมือวัด และทำการตรวจเช็ค โดยให้ลูกค้ารับทราบด้วยว่าน้ำยาขาด หรือ เหลือมากน้อยเพียงใด จากการตรวจเช็คหลังการให้บริการ ล้างแอร์ ต่อลูกค้า การเติมน้ำยาแอร์ หากไม่มีการใช้มานานมาก หรือ เกิดจากระบบแอร์ เช่น แอร์รั่ว ระบบ ท่อน้ำยาแอร์ รั่ว เป็นต้น ซึ่งเป็นปัญหา ทำให้เกิดแอร์ ไม่เย็น เพราะน้ำยาแอร์ ได้หมดไป ไม่มีในระบบ
